วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553

บิกินี ชื่อนี้มาจากไหน?

บิกินี ชื่อนี้มาจากนิวเคลียร์

บิกินี


บิกินีเมื่อก่อนบิกินีเป็นสิ่งที่ล่อแหลมมาก ถึงเดี๋ยวนี้ก็เถอะ ผู้หญิงธรรมดา ๆ ใครจะกล้าใส่บิกินีลงเล่นน้ำ



ในช่วง ค.ศ.1930-1939 ชุดว่ายน้ำเริ่มเปิดเผยเนื้อตัวของผู้สวมใส่มากขึ้นทุกที ๆ จากชุดเปิดหลังพร้อมสายคาดบ่าเส้นเล็ก ก็พัฒนามาสู่
บิกินี ชื่อของแฟชั่นชุดว่ายน้ำแบบใหม่ล่าสุดนี้ เกี่ยวพันอย่างแนบแน่นกับจุดเริ่มต้นของยุคนิวเคลียร์

บิกินีวันที่ 1 กรกฏาคม ค.ศ.1946 สหรัฐอเมริกาเริ่มทำการทดลองนิวเคลียร์ในยามสงบ โดยทิ้งระเบิดปรมาณูลงบนเกาะประการังบิกินี ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กในแนวหมู่เกาะมาร์แชลในมหาสมุทรแปซิฟิก เนื่องจากระเบิดปรมาณูที่ทดลองครั้งนี้เป็นชนิดเดียวกับ ที่ถล่มเมืองฮิโรชิมา และนางาซากิจนราบคาบเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา
สื่อมวลชนทั่วโลกจึงให้ความสนใจกับข่าวทดลองนี้เป็นอย่างมาก

ในเวลาเดียวกับที่กรุงปารีส
หลุยส์ เรอาด์ นักออกแบบชื่อดังของฝรั่งเศสกำลังเตรียมนำผลงานล่าสุดออกแสดงเป็นชุดว่ายน้ำแบบสองชิ้นซึ่งปกปิดร่างกายของผู้สวมใส่น้อยมากจนน่าใจหาย เรอาด์ยังไม่ได้ตั้งชื่อให้ชุดว่ายน้ำแบบนี้เลย

หนังสือพิมพ์ทุกฉบับประโคมข่าวการทดลองระเบิดปรมาณูที่เกาะบิกินี เรอาด์อยากให้ผลงานออกแบบของเขาเรียกความสนใจจากสื่อมวลชนได้มากพอ ๆ กับข่าวการทดลอง เขาเชื่อว่าชุดว่ายน้ำแบบใหม่นี้น่าจะดังระเบิด เช่นเดียวกัน เขาจึงเลือกใช้ชื่อว่า
บิกินี ซึ่งกำลังติดปากประชาชนทั่วไปอยู่

วันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ.1946 สี่วันหลังจากการทดลองระเบิด
นางแบบชั้นนำ มิชาลิน เบอร์นาดี ออกเดินแบบ ในชุดบิกินีชุดแรกในประวัติศาสตร์แฟชั่น ปรากฏว่าในปีนั้น ชุดบิกินีได้ก่อให้เกิดข้อถกเถียง ความห่วงใย รวมทั้งการประณามอย่างกว้างขวางมากกว่าระเบิดปรมาณูเสียด้วยซ้ำ



วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

รู้มั้ย? ทำไม..ดินสอจึงมีแต่ ตัว H กับตัว B

ดินสอ



หลาย คนคงจะรู้กันอยู่แล้วว่าไส้ของดินสอนั้นทำมาจากแกรไฟต์ แต่ถ้าลงลึกไปในรายละเอียดแล้วแกรไฟต์ไม่ใช่ส่วนผสมเดียวของไส้ดินสอ แต่ยังมีผงดินเหนียวและน้ำรวมอยู่ด้วย


หรือถ้าเป็นดินสอสีก็จะมีเม็ดสีเป็นอีกส่วนผสมหนึ่ง ซึ่งส่วนของแกรไฟต์และดินเหนียวที่ใช้มีความสำคัญกับคุณภาพของดินสอที่ได้ กล่าวคือ ยิ่งผสมดินเหนียวมากขึ้นเท่าไร ไส้ดินสอที่ได้ก็จะแข็งขึ้นและสีอ่อนลงเท่านั้น

ดินสอส่วนสัญลักษณ์ 2B ที่พวกเราคุ้นเคยกันนั้น เป็นตัวบ่งชี้คุณภาพของดินสอตามระบบแบบยุโรป ซึ่งจะวัดระดับของไส้ดินสอตาม H (Hardness) คือ ความแข็ง และ B (Blackness) คือ ความดำ รวมทั้ง F (Fine point) คือ ความละเอียดของเนื้อ

มาตรฐานดินสอที่ใช้เขียนกันทั่วไปอยู่ในระดับ HB ส่วนดินสอสำหรับระบายกระดาษคอมพิวเตอร์ ต้องใช้ความเข้มระดับ 2B ขึ้นไป

ทั้ง นี้ ดินสอที่ผลิตอยู่ในท้องตลาด มีตั้งแต่ 9H ซึ่งมีไส้ดินสอที่แข็งที่สุดแต่ให้สีอ่อนที่สุด ไล่ไปที่ 8H, 7H, 6H, 5H, 4H, 3H, 2H, H, F และ HB ซึ่งเป็นดินสอระดับมาตรฐานสำหรับงานเขียน ไปจนถึงระดับ B, 2B, 3B, 4B, 5B, 6B, 7B, 8B และ 9B ซึ่งเป็นดินสอที่มีไส้อ่อนที่สุดแต่ก็สีดำที่สุด

สรุป ได้ว่า ดินสอที่มีตัว H มากจะยิ่งให้สีอ่อนลงเรื่อยๆ ในทางตรงข้าม ดินสอที่มีตัว B มากจะยิ่งมีสีเข้มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยดินสอที่มีความเข้มมากจะใช้ในการแรเงา ส่วนดินสอที่มีความเข้มน้อยจะใช้ในการร่างภาพ

นอกจากเกณฑ์การวัดระดับไส้ดินสอตามระบบยุโรปแล้ว ยัง มีระบบตัวเลขที่ใช้กันในอเมริกา โดยดินสอเบอร์ 1= B, ดินสอเบอร์ 2 = HB, ดินสอเบอร์ 2 1/2 = F, ดินสอเบอร์ 3 = H และดินสอเบอร์ 4 = 2H

ส่วนตัวเลขที่เราคุ้นเคยอีกแบบคือตัวเลขกำกับขนาดของ ไส้ดินสอที่ใช้กับดินสอกด ได้แก่ 0.3, 0.5, 0.7, 0.9, 1.0 และ 1.5 ทั้งหมดมีหน่วยเป็นมิลลิเมตรและเป็นตัวระบุความหนาของไส้ดินสอ

วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2553

ปัญหาเรื่องเล็บที่ไม่เล็กและไม่ควรมองข้าม


เด็กดีดอทคอม :: ไขปัญหาเรื่องเล็บ เล็บ

จะว่าไปสำหรับสาวๆ แล้ว เรื่องเล็บ ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่ากับเรื่องของรูปร่างและหน้าตา แต่ก็เป็นสิ่งที่สามารถบ่งบอกได้ถึงสุขภาพและการเอาใจใส่ตัวเองเหมือนกันนะคะ …

วันนี้ “ดูแลตัวเองให้สวยกว่าใคร” ก็มีวิธีแก้ปัญหา เล็บลอกฉีกขาด หรือเล็บเหลืองมาฝากสาวๆ กันค่ะ ... มาดูกันดีกว่านะว่าต้องทำยังไงกันบ้าง

>>> เล็บลอก เกิดจากการใช้ผงซักฟอก กาวติดเล็บ หรือน้ำยาล้างเล็บที่มีฤทธิ์แรงติดต่อกันนานเกินไป หรือไม่ก็โดนแดดหรือแช่อยู่ในน้ำนานเกินควรค่ะ วิธีแก้ก็ไม่ยากเลยค่ะ แค่สวมถุงมือยางเวลาที่ต้องทำงานบ้าน ระวังอย่าให้มือสัมผัสกับน้ำร้อน และใช้น้ำยาล้างเล็บแบบที่มีส่วนผสมของน้ำมัน (แทนที่จะเป็นสารทำละลายที่ชื่ออะซิโตน) และควรใช้ครีมทามือนวดบริเวณเล็บ และหนังหุ้มเล็บหลังล้างมือก่อนเข้านอนทุกครั้ง

เด็กดีดอทคอม :: ไขปัญหาเรื่องเล็บ เล็บเด็กดีดอทคอม :: ไขปัญหาเรื่องเล็บ เล็บ

>>> เล็บฉีก เล็บมีสภาพแห้ง หรือใช้แรงกดในขณะตัดเล็บมากเกินไป นอกจากนี้การกัดเล็บบ่อยๆ ก็มีโอกาสทำให้เล็บฉีกได้ วิธีแก้ก็คือ ให้สาวๆ ใช้ครีมทามือเป็นประจำเพื่อทำให้เล็บชุ่มชื้นอยู่เสมอ ส่วนวิธีจัดการกับหนังหุ้มเล็บที่แห้ง และเผยอออกมานั้น ก็แช่มือในน้ำอุ่นซักพักเพื่อให้หนังหุ้มเล็บนุ่มขึ้น แล้วดันกลับไปให้เข้าที่

>>> เล็บเหลือง คราบนิโคตินจากการสูบบุหรี่ ใช้ยาทาเล็บแบบที่มีสีเข้มโดยไม่ทาน้ำยารองพื้นเล็บก่อน วิธีแก้ก็คือ ให้หยุดสูบบุหรี่ หยุดทาเล็บซักพักนึง และใช้มะนาวกำจัดคราบเหลืองๆ ออกไปด้วยการผ่าครึ่งลูกมะนาว แล้วใช้เล็บแต่ละเล็บเจาะเข้าไปในเนื้อมะนาวแล้วบิดนิ้วไปมา ใช้เวลาซักระยะ อาการเล็บเหลืองก็จะหายไปเองค่ะ


วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

เตือนภัย : กินยาพารามากเกินไป

ถ้าหากจะพูดถึงยาสามัญประจำบ้าน “พาราเซตามอล” ถือว่าเป็นยาสามัญประจำบ้านที่เรารู้จักกันเป็นดี เรียกว่าแทบจะทุกบ้านต้องมีติดบ้านไว้ เพราะรักษาอาการเจ็บป่วย ปวดหัวตัวร้อนได้กับทุกเพศทุกวัย แถมยังเป็นยาที่สามารถหาซื้อได้ง่าย

เด็กดีดอทคอม :: เตือนภัย : กินยาพารามากเกินไประวังตับวาย

ทราบรึเปล่าคะว่า การใช้ยาพาราเซตามอลอย่างพร่ำเพรื่อและติดต่อกันนานเกินไป อาจก่อให้เกิดปัญหาภาวะเป็นพิษต่อตับได้นะคะ พี่เหมี่ยวเคยอ่านพบว่านะคะว่าในสหรัฐอเมริกาสาเหตุของอาการตับวายนั้นอันดับหนึ่งคือมาจากการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาด รองลงมาก็มาจากสาเหตุของการดื่มแอกอฮอล์ หรือไวรัสตับอักเสบ

ในแต่ละปี สหรัฐอเมริกามีผู้ป่วยที่ได้รับรายงาน ความเป็นพิษจากยาพาราเซตามอลประมาณ 100,000 ราย ถูกนำส่งห้องฉุกเฉิน

56,000 ราย ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล 26,000 ราย การใช้พาราเซตามอลเป็นประจำจะทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นมะเร็งไตเพิ่มขึ้นเท่าตัว ซึ่งโรคนี้คร่าชีวิตคนอเมริกัน 12,000 ราย ต่อปี อุบัติการณ์ในการเกิดมะเร็งไตในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นถึง 126%นับตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา การก้าวกระโดดของการเกิดโรคนี้อาจจะเกี่ยวโยงกับการใช้ยาที่ผสมพาราเซตามอลเพิ่มขึ้น เนื่องจากอนุมูลอิสระจาก toxic metabolite ของพราราเซตามอลกระจายไปทั่วร่างกาย เพราะฉะนั้นก็สามาารถทำให้เพิ่มความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวข้องกับความแก่ชราอย่างอื่นได้อีก นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองในสัตว์พบว่าพาราเซตามอลทำให้เกิดต้อกระจกในสัตว์ทดลองได้

สำหรับภาวะพิษจากพาราเซตามอลเกิดขึ้นได้จากเหตุโดยตั้งใจ คือการรับประทานยาเกินขนาดเพื่ออัตวินิบาตกรรม และโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเกิดได้จากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้

1. รับประทานยาชนิดอื่นที่มีส่วนผสมของราราเซตามอลโาดยไม่ทราบ แล้วรับประทานพาราเซตามอลเข้าไปอีก เนื่องจากปัจจุบันยาหลายชนิดมีส่วนผสมของพาราเซตามอล เช่น ยาบรรเทาหวัดลดไข้ ยาบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ ยาคลายกล้ามเนื้อหลายชนิด

2. ปัจจัยเฉพาะบุคคลที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อตับได้ง่าย เช่นในผู้ที่ดื่มสุรา ผู้ป่วยโรคตับภาวะขาดสารอาหารซึ่งส่งผลให้ระดับกลูต้าไธโอนลดลง ในกลุ่มนี้ก่อให้เกิดพิษจากพาราเซตามอลได้ง่าย แม้ว่าจะรับประทานในขนาดปกติก็ตาม

เด็กดีดอทคอม :: เตือนภัย : กินยาพารามากเกินไประวังตับวาย

3. การใช้ยาร่วมกัน โดยเฉพาะยาที่ออกฤทธิ์กระตุ้นเอนไซม์ในระบบขับสารพิษชื่อ CYP450 2E1 ในตับเช่นยา phenytoin, carbamazepine, rifampin เป็ต้น

เด็กดีดอทคอม :: เตือนภัย : กินยาพารามากเกินไประวังตับวาย

ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้พาราเซตามอล ในผู้ป่วยที่เป็นโรคตับเรื้อรัง พิษสุรา ภาวะขาดสารอาหาร และในผู้ที่กำลังรับประทานยาที่กระตุ้นเหนี่ยวนำเอนไซม์ cytochrome P450 2E1 ...ห้ามทานพาราเซตามอลแล้วดื่มสุรา หากกำลังใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาบรรเทาหวัด ให้อ่านฉลากให้ดีว่ามีส่วนผสมของพาราเซตามอลหรือไม่ และไม่รับประทานซ้ำซ้อนข้าไปอีก

และที่สำคัญไม่ควรใช้ยานี้เกินวันละ 2,600 มิลลิกรัม (ประมาณ 5เม็ด ในขนาด 500 mg , จำนวน 8 เม็ดในขนาด 325 มิลลิกรัม) ขนาดรับประทานคือ 10 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม สูงสุดไม่เกินครั้งละ650 มิลลิกรัม ส่วนการใช้ยาพาราเซตามอลกับเด็กเล็กๆ นั้นให้ดูฉลาก และคำนวณความต้องการให้ถูกต้องก่อนเสมอ เพราะยาน้ำนี้ในประเทศไทยมีหลายขนาด ปริมาณมิลลิกรัมต่อหนึ่งช้อนชาแตกต่างกันไป

อีกข้อห้ามที่หลายคนยังไม่ทราบก็คือ ไม่ควรใช้ยาพาราเซตามอลติดต่อกันเกิน 3 วัน เราสามารถใช้ยาทางเลือกแทนการใช้ยาพาราเซตามอลได้ เช่น ยาเขียวแก้ไข้ ยาจันทลีลา ยาฟ้าทะลายโจร ยาขมชนิดต่างๆ ล้วนมีฤทธิ์ลดไข้ได้เช่นกัน

เด็กดีดอทคอม :: เตือนภัย : กินยาพารามากเกินไประวังตับวาย

วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

ประวัติหม้อหุงข้าว

หม้อหุงข้าว เป็นอุปกรณ์ใช้สำหรับหุงข้าว เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น หม้อหุงข้าวที่เก่าแก่ที่สุด เรียกว่า คามาโดะ มีมาตั้งแต่ยุคสมัยโคฟุน ค.ศ. 300-710 คามาโดะเป็นเตาดินเสริมด้วยอิฐหักเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและทนทานต่อความร้อน ใช้ฟืนในการหุงต้ม นอกจากใช้หุงข้าวแล้วก็ยังนำมาต้มซุปถั่ว แต่เคลื่อนย้ายไม่ได้ ต่อมาสมัยนารา-เฮอัน ราวปี ค.ศ.710-794 หม้อหุงข้าวพัฒนามาเป็น โอกิ-คามาโดะ สร้างขึ้นให้ใช้งานกลางแจ้ง และมีภาชนะแยกส่วนสำหรับบรรจุอาหารที่เรียกว่าฮากามะ สำหรับหย่อนลงในหลุมที่ด้านล่างมีกองฟืนสำหรับหุงต้ม ภายหลังมีการประดิษฐ์ภาชนะบรรจุข้าวสำหรับหุงโดยเฉพาะ มีลักษณะเป็นทรงรีทำด้วยโลหะ เรียกว่า โอกามา เรียกหม้อหุงข้าวชนิดนี้ว่า มูชิ-คามาโดะ

เริ่มมีการทดลองผลิตหม้อหุงข้าวไฟฟ้าเป็นครั้งแรก ในช่วงปลายยุคสมัยไตโช กลางทศวรรษ 1920 ต่อมาปลายทศวรรษ 1940 บริษัทมิตซูบิชิ อิเลคทริก ผลิตหม้อหุงข้าวที่มีหม้อและขดลวดนำความร้อนอยู่ภายใน ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใกล้เคียงที่สุดกับหม้อหุงข้าวในปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่สะดวกสบายนัก ยังไม่มีระบบอัตโนมัติ ภายหลังบริษัทมัตซูชิตะและโซนี่ผลิตหม้อหุงข้าวออกจำหน่าย แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สตรีญี่ปุ่นต้องใช้แรงงานในการสงครามด้วย ความสะดวกรวดเร็วและประหยัดเวลาในการหุงข้าวจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ในวันที่ 10 ธันวาคม 1956 บริษัทโตชิบานำหม้อหุงข้าวอัตโนมัติออกวางจำหน่าย 700 ใบ ประสบความสำเร็จมาก โตชิบาเริ่มผลิตหม้อหุงข้าวอีก 200,000 ใบ ในเวลาเพียง 1 เดือน อีก 4 ปี ต่อมาหม้อหุงข้าวเริ่มแพร่หลายไปเกือบครึ่งประเทศ หม้อหุงข้าวของโตชิบานี้ใช้เวลาเพียง 20 นาที มี 2 ชั้น ชั้นนอกสำหรับบรรจุน้ำ ส่วนชั้นในสำหรับบรรจุข้าว รูปแบบนี้ใช้อยู่นานถึง 9 ปี จึงเปลี่ยนพัฒนามาเป็นหม้อหุงข้าวในยุคปัจจุบัน


วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

อย่าไว้ใจ ไม้จิ้มฟัน!


ไม้จิ้มฟัน

หลาย คนคงจะเคยประสบกับปัญหามีเศษอาหารติดอยู่ตามซอกฟันหลังการรับประทานอาหาร ซึ่งแต่ละคนก็คงจะมีวิธีแก้ไขต่างๆ กันไป แต่วิธีที่ง่าย สะดวกที่สุด อีกทั้งมีอุปกรณ์ไว้คอยบริการอยู่ตามร้านอาหารทั่วไป ก็คือ การใช้ไม้จิ้มฟัน ชื่อก็บอกอยู่แล้วนะ คะว่า ไม้จิ้มฟัน ดังนั้นหน้าที่ของมันก็คือ ใช้จิ้มฟันเขี่ยเศษอาหารที่ติดอยู่บริเวณซอกฟันออก


ไม้จิ้มฟัน การใช้ไม้จิ้มฟันอย่างถูกวิธี คือ ใช้ไม้จิ้มฟันเขี่ยเศษอาหารจากเหงือกไปตามซี่ฟัน ไม่ควรทิ่มเข้าไปในซอกฟัน หรือทิ่มจากด้านหน้าฟันทะลุไปถึงหลังฟัน

แต่คงมีหลายคนที่ใช้ไม้จิ้มฟันผิดวิธี คือใช้ไม้จิ้มฟัน ทิ่มเข้าไปในซอกฟัน เพราะความเรียวเล็กที่ปลายและค่อยๆ ใหญ่ขึ้นถึงโคน เมื่อทิ่ม เลยเข้าไปในซอกฟันมากๆ เข้า ขนาดของไม้จิ้มฟันก็จะไปเบียดให้ยอดเหงือกถูกกดต่ำลง เมื่อใช้บ่อยๆ เข้ายอดเหงือกที่เคย แหลมปิดซอกฟันก็จะถูกเบียดให้ต่ำลง และทำให้ยิ่งมีช่องว่างที่ใหญ่ขึ้นส่งผลให้เศษอาหารยิ่งเข้าไปติดง่ายขึ้น อีกทั้งเมื่อเกิด ช่องว่างระหว่างฟันทำให้ขาดความสวยงามด้วย

นอกจากนี้เรื่องความสะอาดของไม้จิ้มฟันก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้อย่างเด็ดขาด ไม้จิ้มฟันตามร้านอาหารชั้นนำอาจมีรูปแบบการบรรจุแยกชิ้น ซึ่งก็จะมีความสะอาดในระดับหนึ่ง แต่ไม้จิ้มฟันที่เรา เห็นกันอยู่ตามร้านอาหารทั่วไปมักใส่กล่องไว้เฉยๆ บางร้านมีฝาปิด บางร้านไม่มี ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรค และ ฝุ่นละอองได้ทั้งสิ้น ถ้าเราใช้ไม้จิ้มฟันอย่างไม่ระวัง โอกาสที่จะทำให้มีการติดเชื้อก็เป็นไปได้ง่ายโดยเฉพาะคนที่เป็นโรคเหงือก อักเสบอยู่แล้ว บางคนมีความเคยชินที่จะต้องใช้ไม้จิ้มฟันหลังอาหารทั้งๆที่ไม่มีเศษอาหารติด ฟัน คือขอเพียงแค่เอาไม้จิ้มฟันไป กัดไว้เล่นๆ ซึ่งก็เป็นการเพิ่มโอกาสที่จะนำเชื้อโรคเข้าสู่ช่องปากของเราโดยไม่จำเป็น

วิธีการทำความสะอาดซอกฟันที่ทันตแพทย์แนะนำให้ใช้ ได้แก่ การใช้ไหมขัดฟัน (Dental Floss) ไหมขัดฟันเป็นใย ไนลอนที่ใช้ทำความสะอาดซอกฟันและสามารถขจัดคราบอาหารหรือเศษอาหารชิ้นโตๆได้ เป็นอย่างดี รวมทั้งไม่เป็นอันตรายต่อ เหงือกและไม่ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฟัน แต่ข้อจำกัดของการใช้ไหมขัดฟันคือการใช้เวลาค่อนข้างมากในการทำความสะอาด ซอกฟันให้ครบทุกซี่

จะเห็นได้ว่าการขจัดเศษอาหาร ออกจากซอกฟันมีวิธีการหลายวิธี ดังนั้นเราควรเลือกวิธีการที่มีประสิทธิภาพและไม่ส่งผล เสียต่อเหงือกและฟันของเรานะคะ แต่ถ้าหากมีความจำเป็นต้องใช้ไม้จิ้มฟัน ก็ควรใช้อย่างถูกวิธีและพิจารณาความสะอาดของไม้ จิ้มฟันก่อนที่จะนำเข้าปากทุกครั้งนะคะ

วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

ชวนกันมาเลือกนอน ให้ถูกท่าทาง

ชวนกันมาเลือกนอน ให้ถูกท่าทาง

คุณทราบหรือไม่ว่า ท่านอนแต่ละท่ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไร แล้วหากท่านั้นเป็นท่านอนประจำตัวคุณเสียแล้วจะต้องปรับเปลี่ยนท่านอนกันอย่างไรนั้น ..

แมว นอน นอนหงาย

นอนหงาย

โดยปกติแล้วคนทั่วไปนิยมนอนหงาย ถือได้ว่าเป็นท่านอนมาตรฐาน เวลานอนหงายโดยไม่หนุนหมอนหรือใช้หมอนต่ำ ต้นคอจะอยู่ในแนวเดียวกันกับลำตัว ไม่ปวดคอ แต่ถ้าหนุนหมอนสักสองสามใบ คอจะก้มโน้มมาข้างหน้า ทำให้เกิดอาการปวดคอได้

ผู้มีอาการดังต่อไปนี้ควรหลีกเลี่ยงการนอนในท่านอนหงายหรือแก้ไขตามคำแนะนำ ดังนี้
ผู้ป่วยโรคปอด ไม่เหมาะที่จะนอนท่านอนหงาย เพราะทำให้กล้ามเนื้อกระบังลมที่คั่นระหว่างช่องอกและช่องท้องกดทับเนื้อปอดเป็นเหตุให้หายใจลำบาก แต่สามารถแก้ไขได้ โดยการยกส่วนบนของร่างกายให้สูงขึ้นในลักษณะครึ่งนอนครึ่งนั่ง อาจจะใช้หมอน 2 - 3 ใบวางหนุนรองหลังไว้หรือยกพื้นเตียงส่วนบนให้สูงขึ้นพอประมาณ

ผู้ป่วยโรคหัวใจดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวายจะมีอาการนอนราบไม่ได้ ทั้งนี้เนื่องจากไม่สามารถสูบฉีดโลหิตออกจากห้องหัวใจได้ก่อให้เกิดอาการหอบและหายใจติดขัด ผู้ป่วยโรคหัวใจจึงมักต้องลุกขึ้นนั่งหรือยืนตอนกลางคืนเพื่อที่จะหายใจได้สะดวกมากยิ่งขึ้น


ผู้ที่มีอาการปวดหลัง การนอนหงายในท่าราบจะทำให้อาการปวดรุนแรงขึ้น เวลานอนควรใช้หมอนหนุนรองใต้โคนขาหรือวางพาดขาทั้งสองไว้บนเตียงนอน รวมทั้งควรออกกำลังกายเป็นประจำวันละ 10 - 15 นาที เพื่อช่วยบริหารกล้ามเนื้อหลังลดการเกร็งตัวและบรรเทาอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดี

นอนตะแคง

แมว นอน หลับ ท่านอนตะแคงซ้าย เป็นท่านอนที่ช่วยลดอาการปวดหลังได้พอสมควร แต่ควรกอดหมอนข้างและพาดขาไว้ ข้อเสียคือทำให้หัวใจซึ่งอยู่ด้านซ้ายทำงานลำบากขึ้น และอาหารในกระเพาะที่ยังย่อยไม่หมดตั้งแต่ก่อนเข้านอนจะคั่งค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดลมจุกเสียดที่บริเวณลิ้นปี่ และอาจรู้สึกชาที่ขาซ้ายหากนอนทับเป็นเวลานาน หรือถ้าหนุนหมอนต่ำเกินไปจะทำให้ปวดต้นคอได้ แก้ไขโดยใช้หมอนสี่เหลี่ยมที่มีความสูงเท่าความกว้างของบ่าซ้ายหนุนนอน

ท่านอนตะแคงขวา เป็นท่านอนที่ดีที่สุด ถ้าเทียบกับการนอนหลับในท่าอื่นๆ เพราะหัวใจเต้นสะดวกและอาหารจากกระเพาะถูกบีบลงลำไส้เล็กได้ดี ทำให้ไม่คั่งค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนานเกินไป และเป็นท่านอนที่ช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ท่านอนตะแคงทั้งตะแคงซ้ายและขวาช่วยลดเสียงกรนได้ ในผู้ที่กรนจากการอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบน เช่น ลิ้นไก่ยาว โคนลิ้นหนา ต่อมทอนซิลโตมาก หรือโพรงจมูกอุดตัน

นอนคว่ำ

ท่านอนคว่ำทำให้หายใจติดขัดไม่สะดวก โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีเต้านมใหญ่หรือสำหรับผู้ชาย การนอนคว่ำก็อาจทำให้อวัยวะเพศถูกทับอยู่ตลอดเวลา จนเกิดอาการชาของอวัยวะเพศได้

การนอนคว่ำยังทำให้ปวดต้นคอ เนื่องจากต้องเงยมาข้างหลัง หรือบิดหมุนไปข้างซ้ายหรือขวานานเกินไป ดังนั้น ถ้าจำเป็นต้องนอนคว่ำ ควรหาหมอนรองใต้ทรวงอก โดยเฉพาะถ้าต้องการอ่านหนังสือในท่านอนคว่ำ ทั้งนี้เพื่อช่วยไม่ให้เมื่อยกล้ามเนื้อคอ และไม่มีอาการปวดคอ

นอกจากนี้ ความเชื่อแต่โบราณที่เคยเข้าใจว่า ทารกควรให้นอนคว่ำรูปหัวจะทุยสวย ไม่แบน แต่ปัจจุบันพบว่าจริงๆ แล้วอาจเกิดผลเสียได้ ทารกมีโอกาสเสียชีวิตเนื่องจากหายใจไม่ออกจากการที่จมูกหรือปากถูกทับไว้

นอกจากคุณจะเลือกนอนให้ถูกท่าเพื่อสุขภาพแล้ว ต้องรู้จักการนอนหลับลึกหลับสนิท ซึ่งช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และถือเป็นวิธีส่งเสริม "ภูมิชีวิต" อีกทางหนึ่ง

วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553

7 วิธีเร่งผมยาวทันใจ


7 วิธีเร่งผมยาวทันใจ



1.ออกกำลังกายให้เส้นผม
เร่งสปีดความเร็วให้ เร่งผมยาว เร็วแบบติดเทอร์โบด้วยการก้มศีรษะให้เลือดไปเลี้ยงที่ศีรษะค้างไว้สัก 30 วินาที ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาทำเช่นนี้ทุกวัน เลือดจะไหลเวียนไปเลี้ยงเส้นผมที่ศีรษะ ทำให้เส้นผมแข็งแรงและยาวเร็วขึ้นด้วย

2.เพิ่มโปรตีน
Lee Stafford ช่างทำผมคนดังของเกาะอังกฤษแนะว่า โปรตีนสามารถปกป้องและซ่อมแซมเส้นผม ช่วยลดการหลุดร่วงและการแตกหักของเส้นผม ทำให้เส้นผมแข็งแรง และยาวเร็วขึ้นได้

3.กินปลา
Richard Ward กล่าวไว้ว่า ปลา พืชผักใบเขียว และบลูเบอรี่เป็นแหล่งอาหารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ฉะนั้นบริเวณใดก็ตามในร่างกายที่มีเลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงได้ดีจะทำให้ร่างกายบริเวณนั้นแข็งแรง มีชีวิตชีวารวมไปถึงเส้นผมบนศีรษะด้วย

4.เคยนวดศีรษะกันบ้างไหม
Phillip Kingsley เปิดเผยให้ฟังถึงศาสตร์ของการนวดศีรษะว่า การนวดศีรษะจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตบนศีรษะ และทำให้ระบบเมตาโบลิซึ่ม ทำงานได้อย่างเป็นปกติ และยังจะช่วยทำให้เส้นผมเติบโตเร็วขึ้น การนวดศีรษะอาจทำได้ด้วยตัวเองที่บ้านในขณะสระผม โดยการใช้นิ้วมือกดและนวดไปตามจุดบนศีรษะอย่างเบามือ

5.แปรงให้ถูก
หลีกเลี่ยงการทำให้เส้นผมขาดและหลุดร่วงด้วยการไม่หวีผมขณะยังเปียกอยู่ เลือกใช้หวีซี่ใหญ่และห่างในการหวีผมช่วงผมเปียกแทน

6.ตัดผมบ้าง
อาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่าการเล็มผมบ่อยๆ จะช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้น การเล็มผมนอกจากจะทำให้ผมยาวเร็วขึ้นแล้วถือว่ายังเป็นการกำจัดผมแตกปลายไปในตัวด้วย รู้อย่างนี้แล้วก็หมั่นให้ช่างเล็มผมก็จะดีไม่ใช่น้อย

7.ต่อผมก็ได้
สำหรับสาวใจร้อนที่ทนรอให้ผมยาวไม่ได้หรืออาจมีภารกิจสำคัญที่จำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องไว้ผมยาวภายใน 1 วัน ให้ลองมองหาร้านทำผมที่มีบริการต่อผมดู ให้เลือกใช้บริการร้านต่อผมที่ค่อนข้างมีประสบการณ์สักนิดก่อนที่คิดจะต่อผม


วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553

เรื่องดีๆที่น่าอ่าน ^^

แต่ละวัน...คุณใช้"ธนบัตร"ราคาไหนบ้าง


"ธนบัตร" มีค่า แต่คุณรู้ไหมว่านอกจาก "ค่า" คือราคาของตัวเองแล้ว "ธนบัตร" ยังมี "คุณค่า" เพราะ "หลังธนบัตร" มีสิ่งดีๆที่สอนเราอยู่

แต่เราไม่เคย "อ่าน" นอกเหนือจากไม่ค่อยสังเกตุว่า "หลังธนบัตร" แต่ละราคาเป็นภาพของกษัตริย์องค์ไหน

จึง
อนำ"คุณค่า"หลังธนบัตรมาบอก..

ธนบัตร ๒o บาท ...คุณรู้ไหมว่าเป็นภาพของพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ไหน

คำตอบก็คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อานันทมหิดล และ "คุณค่า" หลังธนบัตรนี่ มีข้อความว่า

"ถ้าคนไทยทุกคน ถือว่าตนเองเป็นเจ้าของชาติบ้านเมือง และต่างปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดี ด้วยความสุจริตและถูกต้อง ตามทำนองคลองธรรมแล้ว ความทุกข์ยากของบ้านเมือง ก็จะผ่านพ้นไปได้"


มาถึงแบงก์ร้อย
ส่วนใหญ่คงจำกันแม่นว่า "หลังธนบัตร" สีแดงใบละร้อย เป็นภาพของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยะมหาราช แต่คุณเคยรู้ "คุณค่า" หลังธนบัตรนี้ไหม

"ประเพณีทาสที่มีอยู่ในพระราชอาณาจักรสยาม ถึงเป็นวิธีทาสทำสารกรมธรรม์
ขายตัวด้วยใจสมัคร มิใช่ทาสเชลย ที่เป็นการกดขี่อย่างร้ายแรงก็จริง
แต่เป็นเครื่องกีดขวางทางเจริญ ประโยชน์และสุขสำราญ ของมหาชนอยู่อย่างหนึ่ง
ซึ่งจำเป็นจะต้องเลิกถอน อย่าให้มีประเพณีทาสในพระราชอาณาจักรนี้
กรุงสยามจึงจะมีความสมบูรณ์เท่าทันประเทศอื่น
"

แบงก์ ๕oo ล่ะ ใช้ธนบัตรสีม่วง รู้ไหมเป็นภาพพระองค์ไหน

แน่นอนว่าหลายคนคงนึกไม่ออก ..เพราะเป็น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชดำรัสไว้ในเราทราบคือ..

"การงานสิ่งใดของเขาที่ดี ควรจะเรียนร่ำเอาไว้ ก็เอาอย่างเขา
แต่อย่าให้นับถือเลื่อมใสไปเสียทีเดียว"


แบงก์ใหญ่ที่สุด ธนบัตรใบละ ๑ooo บาท

หลายคนทราบดีว่าเป็นภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่เคย "อ่าน" สิ่งที่มี"คุณค่า" หลังธนบัตรไหม

เศรษฐกิจแบบพอเพียง … เศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกินนั้น หมายความว่าอุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตัวเอง


นี่คือ"คุณค่า"หลังธนบัตรที่เราไม่ค่อยสังเกตกัน


วันศุกร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2553

ทำไม นกเพนกวิน ถึงบินไม่ได้?

นกเพนกวิน


นกเพนกวินนกเพนกวินเป็นนกที่บินไม่ได้ เพราะมีการดัดแปลงอวัยวะสำหรับใช้ในการบินเป็นใช้เพื่อ การว่ายน้ำ และยังสามารถเดิน วิ่ง กระโดดและปีนป่ายได้เป็นอย่างดีบนก้อนน้ำแข็ง


อันเนื่องมาจากเพนกวิ มีนิ้วเท้าที่มีพังพืดและมีเล็บที่แข็งแรงใช้สำหรับว่ายน้ำมีหางไว้ใช้เป็นหางเสือ และใช้ทำให้ก้อนน้ำแข็งแตกได้ง่าย

นกเพนกวินมีขนสั้น ๆ ปกคลุมตัว ปลายขนจะคลุมทับกันแน่นคล้ายกระเบื้องมุงหลังคาทำให้ป้องกันน้ำเข้าถึงผิวหนังและทำให้ร่างกายอบอุ่น ซึ่งเราสามารถพบเจอนกเพนกวินตามธรรมชาติได้ที่ทะเล มหาสมุทร เฉพาะทางซีกโลกใต้เท่านั้น


นกเพนกวินเป็นสัตว์ สังคม พบอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเป็นฝูง ส่งเสียงดังเพื่อช่วยในการติดต่อสื่อสาร และมีความสามารถในการว่ายน้ำได้เร็วถึง 8-16 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทีเดียว

*** อาหารของนกเพนกวิน ได้แก่ ปลา ปลาหมึกขนาดเล็ก หอยและกุ้ง นั้นเอง


นกเพนกวิน
นกเพนกวิน


นกเพนกวิน

นกเพนกวิน

วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

ผู้หญิงคนนี้สวยที่สุดในโลก

เด็กดีดอทคอม :: ผู้หญิงคนนี้สวยที่สุดในโลก


"แม่" เป็นผู้หญิงที่ยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อลูก