วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ผู้ก่อตั้ง facebook Mark Zuckerburg


มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก แฮ็กเกอร์หนุ่มจากฮาร์วาร์ด ผู้ก่อตั้ง Facebook เครือข่ายสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่สุดของโลก จนโด่งดังเปรี้ยงปร้างไปทั่ว และได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารไทม์ให้เป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก ประจำปี 2008 ขณะอายุเพียง 23 ปี โดยปัจจุบันมีผู้ใช้เฟซบุ๊กมากกว่า 400 ล้านคน นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อ 6 ปีก่อน วันที่ 4 ก.พ. ปี 2004

ย้อนกลับไปในวัยเด็ก "มาร์ค" มีชีวิตแสนจะธรรมดา เขาเกิดในครอบครัวอเมริกันเชื้อสายยิว เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ปี 1984 โตมาในย่าน ดอบส์ เฟอร์รี รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา มีพ่อเป็นหมอฟันและนักจิตวิทยา ชีวิตวัยเด็กของเขาค่อนข้างจะสุขสบาย ไม่เคยผ่านความลำบากยากจน เขามีพี่น้อง 4 คน ทว่า เป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน เป็นเด็กเรียนเก่งออกแนวเนิร์ดๆ ชอบขลุกอยู่แต่ในห้อง

ไอเดียสำคัญที่จุดประกายให้นักศึกษาวิชาคอมพิวเตอร์ วัย 20 ปีคนนี้ ลุกขึ้นทำเฟซบุ๊กเกิดจากความหมกมุ่นอยู่กับเรื่องคอมพิวเตอร์ และการเขียนโปรแกรม จนค้นพบปัญหาว่ามหาวิทยาลัยระดับโลกอย่างฮาร์วาร์ดไม่มีระบบหนังสือรุ่นทางออนไลน์ เขาจึงนำไอเดียไปเสนอเพื่อขอจัดทำ แต่กลับถูกมหาวิทยาลัยปฏิเสธ โดยบอกว่าไม่มีนโยบายให้นักศึกษาเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว

กระนั้น ด้วยความคันไม้คันมือ และอยากเอาชนะ เขาจึงสวมวิญญาณแฮ็กเกอร์เจาะเข้าไปในระบบทะเบียนประวัตินักศึกษาของฮาร์วาร์ด ดึงรูปนักศึกษาและประวัติส่วนตัวจากฐานข้อมูลมหาวิทยาลัยมาใส่ในเว็บไซต์ Facemash พร้อมกันนี้ยังเชิญชวนเพื่อนๆนักศึกษาเล่นเกม Hot or Not โดยโพสต์รูป นักศึกษาให้เพื่อนๆเข้ามาช่วยกันโหวตว่าใครฮอต หรือไม่ฮอต ผลตอบรับดีเกินคาด เพราะภายในเวลาแค่ 4 ชั่วโมง มีนักศึกษาเข้ามาโหวตถึง 450 คน สร้างสถิติคลิกชม 22,000 ครั้ง แต่แทนที่จะได้รับเสียงชมจากอาจารย์ เขากลับถูกมหาวิทยาลัยลงโทษระงับการใช้อินเตอร์เน็ต

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาลุยต่อเพื่อสร้าง Facebook โดยเขานั่งเขียนโปรแกรมอยู่ในหอพักมหาวิทยาลัย และได้รับความช่วยเหลือจากรูมเมต "ดัสติน มาสโควิตซ์" ซึ่งภายหลังได้กลายมาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊ก และรั้งตำแหน่งวีพีด้านเอนจิเนียริ่ง แรกเริ่มเขาพยายามเชิญชวนเพื่อนๆนักศึกษาส่งรูปและข้อมูลส่วนตัวเข้ามาโพสต์บนเว็บไซต์ ซึ่งมีคนส่งรูปเข้ามาถึง 500 รูป ต่อมาได้พัฒนาโปรแกรมโดยสร้างเว็บเพจให้ เพื่อนร่วมชั้นสามารถส่งอีเมล์เข้ามาช่วยกันเขียนความคิดเห็น และเพิ่มเติม ประวัติได้อย่างไม่จำกัด ปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากเว็บไซต์ เพื่อสร้างสัมพันธ์ในหมู่นักศึกษาฮาร์วาร์ด จึงขยายความฮิตฮอตไปยังมหาวิทยาลัยอื่นๆกว่า 30 สถาบัน

ชีวิตของเขาต้องมาถึงทางแยก เมื่อเขากับเพื่อนๆชวนกันเดินทางไปดูลาดเลาที่พาโล อัลโต ซึ่งเป็นซิลิคอน วัลเลย์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อหาเงินลงทุนก่อตั้งบริษัท และพัฒนาเว็บไซต์ ตอนนั้น พวกเขายังมีแผนจะกลับมาเรียนต่อในช่วงเปิดเทอม แต่ท้ายสุด เมื่อได้รับไฟเขียวอนุมัติเงินลงทุนถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภาพของ "บิลล์ เกตส์" ผู้สร้างตำนานลาออกจากฮาร์วาร์ด เพื่อมาสร้างไมโครซอฟท์ จึงผุดขึ้นตรงหน้า ทำให้ตัดสินใจทิ้งปริญญา และบอกกับตัวเองว่า ถ้าไมโครซอฟท์เจ๊งเมื่อไหร่...จะกลับไปเรียนฮาร์วาร์ดทันที!!

วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

หอมอย่างมีเสน่ห์

เด็กดีดอทคอม :: หอมอย่างมีเสน่ห์

วิธีการสร้างเสน่ห์จากกลิ่นหอมแบบสาวๆ

เคล็ดลับในการพรมน้ำหอมนั้น สาวๆ สามารถใส่น้ำหอมได้หลายแบบ ถ้าสาวๆ ต้องการพรมน้ำหอมให้มีกลิ่นบางๆ ดูสบายๆ ก็สามารถทาโลชั่นหรือครีมทาผิวที่มีกลิ่นน้ำหอมที่เราชื่นชอบผสมอยู่ แต่ถ้าต้องการกลิ่นที่ติดทนนาน ก็ควรที่จะใช้ โอ เดอ เพอร์ฟูม หลังจากทาครีมทาผิวแล้ว

จุดสำคัญสำหรับการพรมน้ำหอมคือ บริเวณลำคอ แขน และด้านหลังหัวเข่า กลิ่นหอมมักจะลอยตัวขึ้นด้านบน ดังนั้นการพรมน้ำหอมที่ด้านหลังหัวเข่า จะส่งผลให้เกิดความหอมทั่วเรือนร่างได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้การฉีดน้ำหอมไปในอากาศด้านหน้าและเดินผ่านละอองน้ำหอมก็จะทำให้ละอองน้ำหอมติดอยู่บนเส้นผมของสาวๆ อีกด้วยนะคะ ส่วนระยะห่างในการฉีดน้ำหอมตามจุดสำคัญต่าง ๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ควรจะฉีดน้ำหอมให้ห่างจากตัวประมาณ 6 นิ้วค่ะ

การเติมน้ำหอมในระหว่างวันนั้นขึ้นอยู่กับความเข้มข้นและลักษณะของน้ำหอมแต่ละชนิด น้ำหอมที่สกัดมาจากพรรณไม้ตะวันออก ดังเช่นกลิ่นโอเรียนทอลและวูดดี้ มักจะติดทนนานกว่ากลิ่นที่สกัดมาจากดอกไม้หรือผลไม้ น้ำหอมประเภท โอ เดอ เพอร์ฟูม ก็มักจะมีกลิ่นหอม เข้มข้นกว่าโคโลญจน์ เป็นต้น ตามปกติแล้วกลิ่นของน้ำหอมจะติดทนนานประมาณ 4-6 ชั่วโมง หลังจากนั้นสาวๆ ก็จะสามารถพรมน้ำหอมได้อีกครั้ง

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สาวๆ ไม่ควรที่จะฉีดน้ำหอมมากเกินไป เพราะกลิ่นจะฉุนจัดและไม่สร้างความประทับใจให้กับคนรอบข้างเอาเสียเลย ถ้าหากต้องการกลิ่นหอมแบบติดลึก แต่บางเบาสาวๆ ควรจะทาโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวของกลิ่นน้ำหอมนั้นก่อนและจึงตามด้วยการพรมน้ำหอม ซึ่งสามารถทำให้กลิ่นหอมติดทนนาน และเป็นที่ประทับใจสำหรับตัวเราเองและคนรอบข้างด้วย

เด็กดีดอทคอม :: หอมอย่างมีเสน่ห์

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

พิธี คว่ำบาตร ?

คว่ำบาตร คือการประกาศตัดสัมพันธ์ กับผู้ที่ ทำผิดทางศาสนา อย่างแรง คฤหัสถ์ ที่ถูกสงฆ์คว่ำบาตร คือผู้ทำความผิดแปดอย่าง ได้แก่

๑. ขวนขวายเพื่อมิใช่ลาภแก่สงฆ์

๒. ขวนขวายเพื่อมิใช่ประโยชน์แก่สงฆ์

๓. ขวนขวายเพื่อให้พระอยู่ไม่ได้

๔. ด่าว่าเปรียบเปรยภิกษุทั้งหลาย

๕. ยุยงให้สงฆ์แตกกัน

๖. ตำหนิติเตียนพระพุทธเจ้า

๗. ตำหนิติเตียนพระธรรม

๘. ตำหนิติเตียนพระสงฆ์

ผู้ใดเป็นอุบาสกอยู่แล้ว ยังทำความพยายามอย่างนี้ สงฆ์เห็นว่า หากจะติดต่ออยู่ ก็กำเริบทำความเสื่อมเสียแก่ พระศาสนายิ่งขึ้น ก็ทำพิธีคว่ำบาตรเสีย

พิธีคว่ำบาตรนั้น สงฆ์ทั้งหมด จะประชุมกัน รูปหนึ่ง ประกาศความผิด ของผู้ที่จะคว่ำบาตรแล้วประกาศคว่ำบาตร สองครั้ง (ญัตติทุติยกรรม) เมื่อคว่ำบาตรแล้ว ภิกษุสามเณร จะต้องงดรับบิณฑบาตของเขา งดรับของทุกอย่าง งดการติดต่อทั้งสิ้น จนกว่าเขา จะสำนึกผิด มาขอขมาสงฆ์สงฆ์จึงทำพิธี หงายบาตรให้ โดยมีการประชุมสงฆ์ ทำนองเดียวกับ ตอนคว่ำบาตร แต่ตอนหงายบาตรให้อุบาสกผู้นั้น อยู่ในที่ประชุมสงฆ์ด้วย

ต่อมา "คว่ำบาตร" กลายเป็นสำนวน มีความหมายถึง การตัดออกจาก สมาคม ไม่คบหาด้วยพระ จึงไม่ได้เป็นฝ่าย คว่ำบาตร ต่อคฤหัสถ์เท่านั้น คฤหัสถ์ก็สามารถ \"คว่ำบาตร\" ไม่ตักบาตรทำบุญกับพระที่ตนเห็นว่า มีวัตรปฏิบัติ ไม่เหมาะไม่ควรได้


วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

'บึงกาฬ' จังหวัดที่77 ของเมืองไทย

จังหวัด บึงกาฬ

จังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย



จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดที่มีการร้องขอให้จัดตั้งขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2537 ตามข้อเสนอของนายสุเมธ พรมพันห่าว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเสรีธรรม จังหวัดหนองคาย โดยแยกพื้นที่อำเภอบึงกาฬ อำเภอปากคาด อำเภอโซ่พิสัย อำเภอพรเจริญ อำเภอเซกา อำเภอบึงโขงหลง อำเภอศรีวิไล และอำเภอบุ่งคล้า ออกจากจังหวัดหนองคาย

จากการสำรวจความเห็นของประชาชน จำนวน 366,903 คน ปรากฏว่าประชาชนเห็นด้วยกับการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ ร้อยละ 98.83 หากมีการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ จะมีประชากรประมาณ 399,233 คน ประกอบด้วย 8 อำเภอ ส่วนจังหวัดหนองคาย จะประกอบด้วย 9 อำเภอ ประชากร 506,343 คน



สภาพทั่วไป
บึงกาฬ เป็นอำเภอที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง มีน้ำตก มีภูเขา เป็นอำเภอที่มีเขตพื้นที่ติดต่อกับแม่น้ำโขง และแขวงบริคำไชย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว



ผลการพิจารณา
เมื่อปี พ.ศ. 2537 กระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งผลการพิจารณาว่ายังไม่มีแผนที่จะยกฐานะอำเภอบึงกาฬขึ้นเป็นจังหวัด เพราะการจัดตั้งจังหวัดใหม่เป็นการเพิ่มภาระด้านงบประมาณ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มกำลังคนภาครัฐซึ่งขัดมติคณะรัฐมนตรี

ต่อมาในปี พ.ศ. 2553 กระทรวงมหาดไทย ได้นำเรื่องการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอเป็นร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. ...

ต่อมาในวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553 คณะรัฐมนตรีก็มีมติให้ทำการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬขึ้นซึ่งมีผลนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป จึงนับได้ว่าขณะนี้จังหวัดบึงกาฬได้แยกตัวออกจากจังหวัดหนองคายเป็นจังหวัดที่ 77 ในราชอาณาจักรไทย



อำเภอเมืองบึงกาฬ

อำเภอเมืองบึงกาฬ เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดบึงกาฬ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง มีน้ำตก มีภูเขา เป็นอำเภอที่มีเขตพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขง และอีกฝั่งตรงข้ามแม่น้ำโขงจะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน (ลาว) มีการคมนาคมสะดวก



ประวัติ
เดิมอำเภอบึงกาฬมีชื่อเดิมว่า ไชยบุรีซึ่งขึ้นกับจังหวัดนครพนม จนกระทั่งปี พ.ศ. 2460 ได้ถูกโอนย้ายให้ขึ้นต่อจังหวัดหนองคาย และถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บึงกาฬ ในปี พ.ศ. 2482

ต่อมา ในปี พ.ศ. 2537 ได้มีการร้องขอให้จัดตั้งเป็นจังหวัดบึงกาฬ ตามข้อเสนอของนายสุเมธ พรมพันห่าว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเสรีธรรม จังหวัดหนองคาย โดยแยกพื้นที่อำเภอบึงกาฬ อำเภอปากคาด อำเภอโซ่พิสัย อำเภอพรเจริญ อำเภอเซกา อำเภอบึงโขงหลง อำเภอศรีวิไล และอำเภอบุ่งคล้า ออกจากจังหวัดหนองคาย แต่กระทรวงมหาดไทย ยังไม่มีแผนที่จะยกฐานะอำเภอบึงกาฬขึ้นเป็นจังหวัด เพราะการจัดตั้งจังหวัดใหม่เป็นการเพิ่มภาระด้านงบประมาณ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มกำลังคนภาครัฐซึ่งขัดมติคณะรัฐมนตรี

จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2553 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายเทวฤทธิ์ นิกรเทศ ส.ส.ส่วน พรรคกิจสังคมได้ตั้งกระทู้ถามสดต่อนายกรัฐมนตรี เรื่องการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ และทางกระทรวงมหาดไทยเห็นด้วย กำลังอยู่ในกระบวนการนำเข้าเสนอต่อที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนส่งเรื่องเข้ามาสู่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอเป็นกฎหมายพ.ร.บ.จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ ต่อไป

ต่อมาในวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553 คณะรัฐมนตรีก็มีมติให้ทำการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬขึ้นซึ่งมีผลนับตั้งแต่นี้ เป็นต้นไป จึงทำให้อำเภอบึงกาฬ ได้รับการยกฐานะเป็นอำเภอเมืองบึงกาฬ



สถานที่ท่องเที่ยว

ภูทอก













เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว
ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอบึงกาฬ อำเภอบุ่งคล้า อำเภอเซกา และอำเภอบึงโขงหลง มีน้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง













วัดสว่างอารมณ์


วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

"คำสอนดีๆ ของแม่"



แม่คงสอนให้ลูก

ฉลาดไม่ได้

ลูกต้องเรียนรู้และฉลาดด้วยไหวพริบ และกึ๋นของลูกเอง

แม่อยากให้ลูกคิดและมองโลกในแง่ดี

อย่าคิดว่าใต้ฟ้านี้มีแต่เรื่องทำไม่ได้ เป็นไม่ได้

หัดคิดให้เป็นบวกไว้แหละดี

แม่อยากให้ลูกหัดฝัน

เมื่อไรลูกฝันเป็น ไม่ว่าจะเป็นใฝ่ฝัน

หรือความฝัน ลูกจะรู้ว่าโลกนี้มันน่าอยู่เพียงไหน

เด็กดีดอทคอม :: คำสอนดีๆ ของแม่

แม่อยากให้ลูกพูดแต่เรื่องดี พูดแต่เรื่องสวยงาม

จงเป็นคนสุดท้ายที่ให้ร้ายคนอื่น และจงเป็นคนแรก

ที่ให้กำลังใจ และชื่นชม

แม่อยากให้ลูกทำเรื่องแปลกๆ

ลูกไม่จำเป็นต้องเดินตามชีวิตประจำวันของใคร

อย่าเก็บความคิดแปลก เพียงเพราะเห็นว่ามันไม่เหมือนใคร

แม่อยากสอนให้ลูกกล้าแดด กล้าฝน

เพราะภายใต้ไออุ่นของดวงอาทิตย์ ลูกจะได้รับวิตามินดี

และภายใต้ฟ้าที่มีฝน มันจะทำให้ลูกร้องไห้โดยไม่มีใครเห็นน้ำตา

เด็กดีดอทคอม :: คำสอนดีๆ ของแม่

แม่อยากสอนให้ลูกออกกำลังกายทุกวัน

อย่างน้อยคนเราก็ต้องเคลื่อนไหวทะมัดทะแมง

ลูกได้ออกแรงเสียบ้าง ลูกจะแข็งแกร่งไม่อ่อนแอ

แม่อยากให้ลูกยิ้ม และอยู่กับโลกด้วยความรัก

ยิ้มอาจจะไม่ชนะทุกสิ่ง ยิ้มมากๆ อาจจะดูเหมือนคนบ้า

แต่มันก็ดีกว่าหน้าบึ้งหน้างอเป็นไหนๆ

แม่อยากสอนให้ลูกรู้จักอดทน

ลูกต้องเรียนรู้ว่าลูกไม่มีทางได้ทุกๆ อย่างที่ลูกหวังไว้

อดทนและอย่าได้เสียกำลังใจ อย่าท้อและขอให้เริ่มใหม่อย่างมีพลัง

เด็กดีดอทคอม :: คำสอนดีๆ ของแม่

แม่อยากสอนให้ลูกเขย่งขาขึ้นให้สูง

ไม่มีอะไรที่สูงไปกว่าสองมือเราจะเอื้อมคว้า

เพียงแค่ว่าเรายืนยันที่จะไม่ยืนอยู่กับที่


แม่อยากสอนให้เจ้ามีความสุข แต่อย่าลืมทุกข์ด้วยล่ะลูก

คนที่ไม่เคยมีความทุกข์ เขาสุขจริงๆ ไม่เป็นหรอกเจ้าเอย

ไอคิวมันติดมาแต่บนฟ้าลูกจ๋า ไม่ฉลาดก็มีความสุขได้ไม่ต้องห่วง

อย่าน้อยใจถ้าตามใครเขาไม่ทัน อย่าเสียขวัญถ้าเราช้ากว่าใครๆ

อีคิวมันต้องหาเองบนโลกนี้ลูกเอ๋ย ไม่ฉลาดก็น่ารักและมีความสุขได้


"อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลงปรับปรุง ลูกมีกำลังใจเป็นถุงจากแม่ ไม่ต้องกลัว"

วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Longchamp

Longchamp...ลองฌองป์...ลองชอง..ลองชอม...หรือ...ลองแชมป์ จะเรียกหรือออกเสียงอย่างไรก็ตาม กระแสความนิยมกระเป๋าจ่ายตลาดของแม่บ้านฝรั่งเศสที่ทำจากผ้าไนลอนที่ดูจะแสนธรรมดาแต่ราคาแพงใบนี้ก็ยังแรงดีไม่มีตกเทรนด์ แม้จะวนเวียนอยู่บนถนนแฟชั่นมากว่า 2 – 3 ปีแล้วก็ตาม

เมื่อเอ่ยถึงชื่อกระเป๋า Longchamp แล้ว สาวไทยจำนวนไม่น้อยที่เป็นเจ้าของ ส่วนที่เหลือกำลังมองหาเพื่อจะเป็นเจ้าของกับเขาสักใบ ไล่เรียงตั้งแต่วงสังคมไฮโซ ดารานักแสดง สาวออฟฟิศ นักศึกษาไปจนถึงนักเรียนมัธยมปลาย ด้วยรูปแบบที่แสนจะธรรมดา ที่เห็นด้วยสายตาคือกระเป๋าทำด้วยผ้าไนลอน พับเก็บได้ มีหูหิ้วและฝาเปิดปิดได้ สีสันสดใส แต่ทำไมกระเป๋าใบนี้จึงเป็นเพื่อนคู่แขนสาวๆ ไทยเกลื่อนถนนไปหมด

**กระเป๋าจ่ายตลาดของฝรั่งเศส** Longchamp เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ลู่วิ่งในสนามม้า เป็นเครื่องหนังของกรุงปารีส ภายใต้โลโกนักขี่ม้าแข่ง กำเนิดขึ้นเมื่อปี 1948 โดยฌอง กาสสย์ แกรง ซึ่งผลิตเครื่องหนังใช้หุ้มกล้องยาสูบ จนถึงปี 1960 จึงเริ่มปรับรูปแบบมาผลิตสินค้าเครื่องใช้เกี่ยวกับการเดินทางที่ผลิตจากหนังแกะ

ปี 1975 Longchamp เริ่มเข้าสู่วงการแฟชั่นด้วยการผลิตกระเป๋าสำหรับสตรีเป็นรุ่นแรกในชื่อรุ่น Veau Foulonne ชื่อเสียงของ Longchamp เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจนสามารถเปิดตลาดที่เอเชียที่ฮ่องกงเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1979

จากกระเป๋าหนังแฟชั่นระดับแบรนด์เนม ปี 1994 Longchamp ได้เปิดตัวคอลเล็คชั่นใหม่ Le Pliages ‘เลอ ปิยาด’ ซึ่งเป็นกระเป๋าพับที่ตัดเย็บจากไนลอน น้ำหนักเบา พับเก็บได้ มีหูหิ้วและฝาปิดกระเป๋าเป็นหนัง มีสีสันให้เลือกหลากหลาย ซึ่งครั้งแรกว่ากันว่าผลิตขายเฉพาะในสนามบินส่วน Duty Free เท่านั้น เพื่อให้นักเดินทางได้ใช้สำหรับใส่สัมภาระชอปปิ้ง แถมตั้งราคาถูก คุณภาพทนทาน กันน้ำ จึงเป็นที่ถูกใจของนักชอปปิ้งเป็นอย่างมาก ต่อมาจึงกลายมาเป็นรุ่นฮอตฮิตไปทั่วโลกกว่า 10 ปีแล้ว

สำหรับสาวฝรั่งเศสรวมไปถึงสาวยุโรปนั้นชอบถือกระเป๋ารุ่น Le Pliages กันมาก เรียกได้ว่าเกร่อถนนกันทีเดียว เพราะน้ำหนักเบา ทนทาน จุของได้มาก จึงเหมาะกับการถือไปจ่ายตลาด ไปชอปปิ้ง และใช้พับเก็บเป็นกระเป๋าลูกในกระเป๋าเดินทาง เนื่องจากยุโรปไม่นิยมหิ้วถุงพลาสติก

หน้าตาของกระเป๋า Le Pliages ทำด้วยไนลอน มีฝาปิดเปิดและหูหิ้วที่ทำด้วยหนัง จะมี 2 ขนาดให้เลือกใช้และเป็นรหัสที่รู้กันในหมู่สาว ๆ ที่นิยมรุ่นนี้ คือ รุ่นไซส์ S หูสั้น,S หูยาว ไซส์ M หูสั้น,Mหูยาว แม้จะมีเพียงไม่กี่ขนาดและรูปแบบก็ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง แต่เสน่ห์ของรุ่นนี้อยู่ที่น้ำหนักเบามาก ทนทาน และที่พิเศษคือมีสีสันสดใสซึ่งเจ้าของผลิตภัณฑ์จะมีกลยุทธ์ออกออกสีสันและลวดลายใหม่ ๆ ปีละ 2 ครั้งตามฤดูกาลของแฟชั่นคือ Spring/Summer และ Autumn/Winter และทุกครั้ง เมื่อ Le Pliages รุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด บรรดาสาว ๆ สาวกของ Le Pliages ทั่วโลกก็จะต้องดิ้นรนหามาเป็นเจ้าของให้ได้...

วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เตือน กิน "ชาเย็น" เยอะๆ


เครื่องดื่มยอดนิยมกลับกลายเป็นของแสลง ชาเย็นทำให้เป็น นิ่วในไต

แพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะเตือนว่า ผู้ที่ชอบซดชาเย็นเป็นประจำ ไม่ควรจะดื่มมากเกินไปเพราะอาจจะทำให้เป็นนิ่วในไตได้ เนื่องจากชาเย็นจะมีปริมาณกรดออกซาลิกสะสมอยู่มาก ซึ่งเป็นสารเคมีสำคัญที่ทำให้เป็นนิ่วในไต การซดชาร้อนๆ ยังดีเสียกว่า เพราะแม้ว่าจะมีกรดออกซาลิกอยู่เช่นกัน แต่การจะดื่มมากๆจนทำให้เป็นนิ่วได้เป็นของไม่ง่า



กล่าวว่า ผู้ที่เป็นนิ่วในไตง่ายไม่ควรจะแตะต้องชาเย็นเป็นอันขาด ผู้ชายและผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนซึ่งมีฮอร์โมนเพศ เอสโตรเจนน้อย และสตรีที่ผ่าตัดมดลูกออกไปแล้ว จะล่อแหลมที่จะเป็นนิ่วได้ง่าย

นิ่วในไตมีลักษณะเป็นก้อนผลึกเล็ก ซึ่งเกิดจากแร่ธาตุและเกลือที่มีอยู่ในปัสสาวะ มักเกิดขึ้นในไตหรือท่อไต ซึ่งเป็นท่อระบายปัสสาวะจากไตไปสู่กระเพาะปัสสาวะ ปกติแล้วมันจะหลุดออกไปได้เอง แต่ถ้ามีขนาดโตมันจะติดค้างอยู่ในท่อไต


วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แก้วมังกร : ผลไม้ประหลาดรสชาติอร่อย

คุณสมบัติ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์มาก เชื่อว่าช่วยต้านโรคที่เกี่ยวกับความเครียด ยาพื้นเมืองแถบอเมริกากลางใช้ผลไม้นี้รักษาอาการมองไม่ชัด เบาหวาน และรูมาติซึม



แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานอร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง แคลอรี่ต่ำอุดมไปด้วยวิตามินซี แมกนีเซียมและแคลเซียม แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีกากใยสูง เมล็ดสีดำเล็กๆ ที่กระจายอยู่ทั่วไปในผลแก้วมังกรจะอุดมไปด้วยไขมันที่ไม่อิ่มตัวซึ่งช่วยต่อต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น แก้วมังกรจึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน


สรรพคุณของแก้วมังกรอีกอย่างหนึ่งคือใช้เป็นผลไม้เสริมสุขภาพและความงาม ใช้บริโภคเพื่อจุดประสงค์ในการลดน้ำหนัก เนื่องจากเมื่อกินแก้วมังกรแล้วจะรู้สึกอิ่มและในผลแก้วมังกรก็มีกากใยสูงประกอบกับให้แคลอรี่ต่ำจึงนิยมใช้บริโภคเพื่อลดน้ำหนัก




แก้วมังกรเป็นพืชในตระกูลกระบองเพชร ซึ่งมีสารที่มีประโยชน์คือมิวซิเลจ (Mucilage) ที่มีลักษณะคล้ายวุ้นเจลช่วยดูดซับน้ำในร่างกาย ควบคุมระดับกลูโคสในคนที่เป็นโรคเบาหวาน (ชนิดไม่พึ่งอินซูลิน)ได้ แก้วมังกรยังมีประโยชน์ในการบรรเทาโรคโลหิตจางช่วยเพิ่มธาตุเหล็กให้แก่ร่างกาย นอกจากนี้ผลแก้วมังกรยังมีสรรพคุณในการป้องกันโรคหัวใจ มะเร็งลำไส้และต่อมลูกหมาก เบาหวานช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของกระดูกและฟัน


แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีทั้งสรรพคุณทางยา คุณค่าทางโภชนาการหากรู้จักกินเป็นอาหารรักษาโรค (เภสัชโภชนา) แล้วยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพกับความงาม (ผิวพรรณและการลดน้ำหนัก) อีกด้วย จนอาจพูดได้ว่า แก้วมังกรเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายเช่นเดียวกับผลไม้ชนิดอื่นๆ เช่น มะละกอ ส้ม กล้วย ฯลฯ ดังนั้นหากเรารู้จักเลือกรับประทาน "ผลไม้เพื่อสุขภาพ" ให้ถูกต้องย่อมเกิดผลดีกับร่างกายอย่างแน่นอน แต่วิธีการกินผลไม้ที่ถูกต้องก็คล้ายกับการกินอาหารนั่นคือต้องกินให้หลากหลายจึงจะได้รับสารอาหารและประโยชน์อย่างครบถ้วน การกินผลไม้ก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน ไม่ใช่พอรู้ว่าแก้วมังกรมีประโยชน์และดีต่อสุขภาพมากมายหลายประการแล้วก็พยายามหาและกินเฉพาะแก้วมังกรเท่านั้นผลไม้อื่นที่นอกเหนือจากแก้วมังกรแล้วไม่ยอมกินเลย ถ้าทำอย่างนี้จะไม่ได้รับประโยชน์จากการกินผลไม้ที่ถูกต้องเรียกว่า กินไม่เป็นดังนั้นให้เดินทางสายกลางคือกินแต่พอดีจะดีที่สุด